แบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้า เกิดจากอะไร? พร้อมสาเหตุและวิธีป้องกัน

หากคุณใช้เครื่องสำรองไฟไปได้สักพัก แน่นอนว่าคุณอาจจะพบเจอกับปัญหาการใช้งานต่าง ๆ ไม่มากก็น้อย ปัญหาที่หลายคนเจอและส่งผลต่อการใช้งานมากที่สุด นั่นก็คือ แบตเตอรี่ UPS ชาร์จไฟไม่เข้า เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานอาจเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ได้


เมื่อพูดถึงปัญหา ‘ แบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้า ’ ผู้ให้งานหลายคนอาจมีความเข้าใจผิดไปต่าง ๆ นานาถึงการใช้งานและแก้ปัญหาเรื่องนี้ ยกตัวอย่างเช่น

เมื่อ UPS ชาร์จแบตไม่เข้า ก็คิดว่าแบต UPS เสียอย่างเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วปัญหาอาจเกิดจากแหล่งจ่ายไฟ การตั้งค่าอุปกรณ์ที่ผิดพลาด หรือวงจรไฟฟ้าชำรุดก็ได้

และนี่คือสาเหตุหลัก ที่ทำให้แบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้า 
ลองสำรวจอุปกรณ์ของคุณดูกันนะครับ

สาเหตุที่ทำให้แบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้า

1) แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

เพราะอายุการใช้งานของแบต UPS มีจำกัด ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2-5 ปี เมื่อถึงเวลาครบอายุการใช้งานแล้ว แบตก็จะเสื่อมสภาพและไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้อีกดีเท่าเดิม หนักสุดก็คือชาร์จไฟไม่เข้า เก็บประจุไฟฟ้าไม่ได้เลย

2) สายไฟชำรุด 

ลองสังเกตสายไฟที่เชื่อมต่อระหว่างแบต UPS กับแหล่งจ่ายไฟ หรือพวกสายไฟภายในตัวแบต UPS เองอาจขาดหรือชำรุดอยู่ ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลเวียนเข้าไปได้เต็มที่

หรือสายชาร์จระหว่างอะแดปเตอร์และตัวอุปกรณ์อาจเสียหาย ขั้วต่อไฟฟ้าหลวม สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เแบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้าได้เช่นกัน

3) ตัวแบต UPS มีปัญหา 

ปัญหาด้านฮาร์ดแวร์เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ การที่แบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้าอาจเกิดจากระบบภายในของ UPS เอง ตัวอย่างเช่น แผงวงจรชาร์จไฟเสียหาย ทำให้ระบบการชาร์จแบตเตอรี่ทำงานผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมกระแสไฟฟ้า และรับกำลังไฟฟ้าจากการชาร์จได้

4) แหล่งจ่ายไฟไม่เสถียร 

อาจเกิดจากการมีสัญญาณรบกวน หรือแรงดันไฟฟ้าผิดปกติ ตัวอย่างเช่น เกิดการกระชากไฟหรือมีไฟตก เหตุการณ์เหล่านี้จะทำให้แบต UPS ไม่สามารถชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

5) อุณหภูมิที่สูงจนเกินไป

อย่างที่รู้กันว่า แบต UPS หากอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ยิ่งมีการใช้งานไปด้วยจะยิ่งทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไป มันจึงส่งผลให้วงจรการชาร์จไฟทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ และทำให้แบตเตอรี่ชาร์จไฟไม่เข้า

วิธีแก้ไขปัญหาแบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้า

1) ตรวจสอบอุปกณ์ทุกชิ้นให้ดี

ตรวจสอบสายไฟ : สายไฟเป็นอุปกรณ์ที่เสี่ยงจะโดนทำลายและชำรุดง่าย คุณจึงควรเช็คสายไฟทุกเส้นที่เกี่ยวข้องกับแบต UPS ว่ามีรอยฉีกขาด หรือเกิดชำรุดหรือไม่ 
ตรวจสอบ Adapter : อุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการจ่ายไฟให้กับตัวแบต UPS เพื่อชาร์จไฟ จึงต้องเช็คให้ดีว่าเสียบอะแดปเตอร์แน่นหรือยัง เต้าเสียบทำงานปกติดีมั้ย เช็คความร้อนของมันวว่าร้อนเกินไปหรือไม่ หากใครมีเครื่อง multimeter ก็นำมาวัดแรงดันไฟฟ้าใส adapter ได้

2) ลองทำความสะอาดขั้วต่อ 

ระหว่างขั้วต่อของแบต UPS อาจจะมีคราบหรือสิ่งสกปรกใด ๆ ที่ขวางการส่งกำลังไฟหรือคราบที่กัดกร่อนที่ขั้วต่อ ซึ่งทำให้กระบวนการชาร์จไฟไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่

3) ตรวจอุณหภูมิและสภาพแวดล้อม

เพราะแบต UPS ควรทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ร้อนจนเกินไป หากรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องมันร้อนเกินไปแล้ว ต้องหาวิธีทำให้มันเย็นลงหรือเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ไปอยู่ในที่ที่อากศถ่ายเทได้สะดวก

4) รีเซ็ตแบต UPS ใหม่

เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ระบบชาร์จอาจจะทำงานผิดพลาดบ้างในบางครั้ง การรีเซ็ตแบต UPS โดยวิะีการง่าย ๆ อย่างปิดแล้วเปิดใหม่ อาจช่วยแก้ไขปัญหาแบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้าได้ หรือในบางทีอาจจะต้องถอดปลั๊ก UPS ออกจากแหล่งจ่ายไฟสักแป๊บนึงก่อนจะเสียบเพื่อเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง

5) เช็ตการตั้งค่าระบบ

แบต UPS บางรุ่นมีการตั้งค่าเพื่อควบคุมพลังงานในการชาร์จไฟ คุณอาจจะต้องดูคู่มือของอุปกรณ์เพื่อให้แน่ใจว่าเปิดการตั้งค่าได้ถูกต้องแล้ว หรือมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้วหรือไม่ เพราะในบางครั้งการยังไม่ได้อัปเดตเฟิร์มแวร์นี่แหละเป็นต้นเหตุของปัญหาในเรื่องการชาร์จ

6) เช็คแบตเตอรี่ 

หากวิธีการทั้งหมดที่ได้บอกมา ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาแบต UPS ชาร์จไฟไม่เข้าได้ อาจเป็นไปได้ว่าแบต UPS เสื่อมสภาพลงแล้วจริง ๆ คุณจึงต้องรีบปรึกษาช่างผู้ชำนาญการเพื่อทำการซ่อมแซมตัวแบตโดนด่วน หรือจัดการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เพื่อให้ใช้งานได้ไวทันใจ

รู้วิธีการแก้ปัญหาเรื่องแบต UPS ชาร์จแบตไม่เข้า กันแล้ว หากคุณมีการเปลี่ยนแบต UPS ใหม่ ก็ควรเช็คสุขภาพแบตเตอรี่ UPS เป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อสังเกตอาการผิดปกติในการใช้งาน และควรใช้งานแบต UPS ให้ถูกตามคำแนะนำของเรา หากแบตหมดก็ควรรีบชาร์จภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อรักษาประสิทธิภาพแบต UPS ให้สามารถใช้งานได้เต็มอายุใช้งานของมันครับ