53 จำนวนผู้เข้าชม |
เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากเจอปัญหาไฟตกที่บ้าน เพราะสิ่งที่ตามมามักเป็นความเสียหาย ทั้งกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และบางครั้งอาจส่งผลถึงระบบไฟฟ้าทั้งบ้านด้วย วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ "ไฟตก" ว่าคืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร เพื่อหาทางป้องกันกันดีกว่าค่ะ
ไฟตกเกิดจาก ภาวะที่แรงดันไฟฟ้าภายในระบบไฟฟ้าลดลงต่ำกว่าระดับปกติ อย่างรวดเร็ว เช่น จาก 220 โวลต์ เหลือเพียง 170-200 โวลต์ ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นเพียงแว๊บเดียว แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบไฟในบ้านได้อย่างมาก เช่น การทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าหยุดชะงัก หรือในบางกรณี อุปกรณ์อาจได้รับความเสียหายถาวร ทำให้เสียใช้การไม่ไ่ด้เลย ถ้าบ้านของเพื่อนๆไม่มีระบบป้องกันแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมค่ะ
ลองนึกภาพดูนะคะ ถ้าเรากำลังทำอาหารอยู่แล้วไมโครเวฟหรือเตาอบดับเพราะไฟตก หรือ แอร์ที่กำลังทำให้ห้องเย็น ๆ อยู่เกิดดับกลางคัน หรือ คอมพิวเตอร์อาจเสียหายจนข้อมูลหายไป แค่คิดเล่น ก็ไม่สนุกแล้ว งั้นมาดูกันค่ะ ว่าสาเหตุมีอะไรได้บ้าง เพื่อหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที
ถ้าบ้านเรามีการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างพร้อมกัน เช่น แอร์ ตู้เย็น เตารีด หรือไมโครเวฟ แรงดันไฟฟ้าอาจไม่เพียงพอ ส่งผลให้อาการไฟตกในบ้านได้ค่ะ โดยเฉพาะในช่วงที่ทุกบ้านเปิดแอร์พร้อมกันในหน้าร้อน ไฟมักจะตกบ่อย ๆ เพราะระบบไฟฟ้าไม่สามารถรองรับการใช้งานได้ทัน
บ้านที่มีอายุการใช้งานมานาน หรือระบบไฟฟ้าไม่ได้รับการดูแล อาจมีสายไฟที่เก่าหรือชำรุด ซึ่งสายไฟเหล่านี้จะไม่สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้ดี ส่งผลให้แรงดันไฟฟ้าไม่เสถียร และเกิดไฟตกบ่อยขึ้น
ฝนตกหนัก พายุ หรือฟ้าผ่า อาจส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าภายนอก เช่น หม้อแปลง หรือสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้แรงดันไฟในบ้านลดลง หรือบางครั้งไฟอาจดับไปเลยก็ได้
ยิ่งบ้านอยู่ไกลจากสถานีไฟฟ้าหรือหม้อแปลงขนาดใหญ่เท่าไร โอกาสที่จะเจอไฟตกก็ยิ่งมากขึ้นค่ะ เพราะไฟฟ้าต้องเดินทางผ่านสายไฟในระยะทางไกล ซึ่งอาจสูญเสียแรงดันไฟฟ้าระหว่างทาง
ไฟตกบ่อย ๆ อาจทำให้วงจรในเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น หรือคอมพิวเตอร์ เสื่อมสภาพหรือพังได้ เพราะแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียรจะทำให้อุปกรณ์ทำงานผิดปกติ
บางครั้งไฟตกอาจนำไปสู่ไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งนอกจากจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย ยังเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ในบ้านด้วย
ถ้าไฟตกในขณะที่เรากำลังใช้งานอุปกรณ์สำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องซักผ้า อาจทำให้งานหยุดชะงัก และอุปกรณ์เหล่านี้อาจเสียหายจากแรงดันไฟที่ลดลงกะทันหัน
เมื่อเข้าใจว่าสาเหตุไฟตกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะ บางปัจจัยเราเองก็ไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ ดังนั้นการป้องกันที่บ้านเราเอง จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพก็คือ การติดตั้งเครื่องสำรองไฟ หรือ UPS นั่นเองค่ะ
UPS มีหลากหลายขนาดและคุณสมบัติให้เลือกใช้ หากเป็นการใช้งานในบ้านทั่วไป แนะนำให้เลือก UPS ขนาดเล็ก ที่สามารถรองรับอุปกรณ์สำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ ทีวี หรือ เราท์เตอร์อินเทอร์เน็ต
การใช้เครื่องสำรองไฟ (UPS) จริง ๆ แล้วไม่ได้ซับซ้อนเลยค่ะ เพื่อนๆเองก็ทำเองได้ในไม่กี่ขั้นตอน เพียงแค่เสียบปลั๊กเครื่องสำรองไฟเข้ากับเต้ารับในบ้าน จากนั้นนำปลั๊กของอุปกรณ์ที่คุณอยากป้องกัน เช่น คอมพิวเตอร์ หน้าจอมอนิเตอร์ หรือแม้แต่ลำโพง มาเสียบเข้ากับเต้ารับที่ตัว UPS เท่านี้เอง
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด UPS ก็จะทำงานทันที ไม่ต้องกังวลว่างานจะสะดุด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าจะพังไปพร้อมกับแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียรอีกค่ะ
หมายเหตุ - UPS แต่ละเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ที่อยู่ภายใน ซึ่งแบตเตอรี่เหล่านี้มีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา ที่ Maxipowerplus เรามีบริการตรวจเช็คแบตเตอรี่ให้คุณพร้อมเปลี่ยนแบตใหม่ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีบริการดูแลเครื่อง UPS แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง การบำรุงรักษา หรือการซ่อมแซมตัวเครื่องให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมช่วยยืดอายุการใช้งาน UPS ของคุณให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด มั่นใจได้ว่าติดตั้ง Ups กับเราจะอยู่คู่บ้านคุณไปอีกยาววว
หากเพื่อนๆยังไม่แน่ใจว่าควรเลือก UPS ขนาดไหน หรือติดตั้งตรงจุดไหนของบ้าน Maxipowerplus พร้อมช่วยดูแลตั้งแต่การออกแบบระบบไฟฟ้าสำรอง ไปจนถึงการติดตั้งจริง ทีมงานของเรายินดีช่วยคุณประเมินขนาดกำลังไฟที่เหมาะสม รวมถึงออกแบบจุดติดตั้งที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด
สนใจบริการของเรา สามารถติดต่อ Maxipowerplus ได้เลยค่ะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Maxipowerplus